ข่าวดารา

วันจันทร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

โอกาสในการเเสดงรองเง็ง

การแสดงรองเง็งในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ปัจจุบันมีการใช้ในการต้อนรับแขกต่างๆที่มาเยี่ยมเยือน ใช้เป็นพิธีในการเปิดภาคสนามแข่งขันกีฬาระดับโรงเรียน หรือว่าระดับจังหวัด พิธีงานฮารีรายอในเดือนรอมฎอลของชาวมุสลิม  พิธีงานมงคลสมรสต่างๆที่มีการจัดขึ้น หรือตลอดจนกระทั่งในการพิธีรื่นเริงสำราญต่างๆที่ได้จัดขึ้นในงานประจำปีหรือเทศกาลต่างๆ

การเเสดงรองเง็ง

ในตอนนี้ได้มีการนำรองเง็งมาแสดงในงานพิธีต่างๆน้อยมากเพราะเป็นการแสดงที่ค่อนข้างหาชมได้ยากมากเนื่องด้วยว่าเป็นการแสดงที่ไม่ค่อยมีบุคคลให้ความสำคัญในการแสดงศิลปะชิ้นนี้สักเท่าไรไม่เหมือนมโนราห์ หนังตะลุง หรือลิเกฮูลู ที่ยังมีการสืบต่อสืบสานวัฒนธรรมการแสดงเหล่านี้เอาไว้แต่คิดว่าในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ส่วนใหญ่มักที่จะพบการแสดงเหล่านี้อยู่เพราะว่าได้มีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศไทยในบริเวณนั้นซึ่งในแถบนั้นนิยมในแสดงมากอยู่

วันอาทิตย์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

การเเสดงรองเง็ง

ในสมัยก่อนดนตรีรองเง็งบรรเลงประกอบการเต้นรองเง็งในงานต่างๆเช่นงานรื่นเริงไม่ว่าจะเกี่ยวกับศาสนาอิสลามหรือศาสนาอื่นก็ตามแต่ปัจจุบันนิยมบรรเลงในงานมงคลทั่ว ๆ ไปทั้งนี้อย่างที่กล่าวมาข้างต้นว่าได้ใช้ในงานรื่นเริงและงานต่างๆในอดีตแต่ปัจจุบันไม่ค่อยเห็นอย่างแพร่หลายเหมือนในอดีตเพราะว่ารองเง็งในปัจจุนนี้มีการแสดงน้อยลง

วันพฤหัสบดีที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

วิธีรักษาผิวหน้า

สูตรที่ 1
พอกหน้าด้วยมะเขือเทศ จากประเทศญี่ปุ่น
วิธีทำ เริ่มด้วยการฝานมะเขือเทศ 1 ชิ้นหนาๆ ถูให้ทั่วใบหน้าและลำคอเบาๆ ตรงบริเวณที่มีสิวเสี้ยน มะเขือเทศมีวิตามินซี และกรด AHA จะช่วยลอกผิวหน้าที่ตายแล้วให้หลุดออกได้ หลังจากนั้นจึงค่อยใช้สำลีชุบน้ำเย็น เช็ดมะเขือเทศออกให้สะอาด

สูตรที่ 2
พอกหน้าด้วยไข่ขาว จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์
วิธีทำ ตอกไข่ไก่ 1 ฟอง แยกไข่แดงออกเทเฉพาะไข่ขาวลงในถ้วย ใช้ส้อมตีไข่ขาวจนเป็นฟองพอสมควร แล้วใช้แปรงขนนุ่ม จุ่มไข่ขาวทาให้ทั่วใบหน้าและลำคอ ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที จนไข่ขาวเริ่มจับตัวแข็ง แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น

สูตรที่ 3
พอกหน้าด้วยน้ำผึ้ง จากประเทศสเปน
วิธีทำ เริ่มจากล้างหน้าให้สะอาด แล้วเช็ดให้แห้ง จากนั้นใช้ปลายนิ้วแตะน้ำผึ้งลูบไล้บนใบหน้าและลำคอเบาๆ สักครู่ แล้วนวดหน้าด้วยปลายนิ้วอย่างแผ่วเบาประมาณ 5 นาที จนน้ำผึ้งเหนียว นวดต่อไปไม่ได้แล้ว ก็ปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที ระหว่างนั้นให้นอนพักศีรษะอยู่ต่ำกว่าระดับปลายเท้า เพื่อให้เลือดไหลมาหล่อเลี้ยงที่ใบหน้าและลำคอได้สะดวกยิ่งขึ้น เมื่อครบเวลาแล้วก็ค่อยๆ ใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นเช็ดน้ำผึ้งออกให้สะอาด

สูตรที่ 4
พอกหน้าด้วยแอปเปิล จากประเทศเบลเยียม
วิธีทำ ปอกแอปเปิลแล้วคว้านเอาไส้และเมล็ดออก จากนั้นบดให้ละเอียด ขณะที่บดให้ผสมน้ำผึ้งลงไปด้วย เมื่อบดจนเข้ากันดีแล้ว นำเอาส่วนผสมนี้มาพอกหน้าทิ้งไว้ 20 นาที แล้วใช้นมสดเย็นๆ ล้างออก

สูตรที่ 5
พอกหน้าด้วยนมเปรี้ยว จากประเทศรัสเซีย
วิธีทำ สำหรับผู้ที่มีผิวหน้ามัน ล้างหน้าให้สะอาดก่อนจะเอานมเปรี้ยวที่แช่เย็นจัดพอกหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาทีหรือนานกว่านั้น แล้วใช้ผ้าขนหนูนุ่มๆ เช็ดออก ตำรานี้จะใช้ได้ผลดีมากในหน้าร้อน เพราะจะช่วยให้ใบหน้าที่ซีดเซียวกลับเปล่งปลั่งขึ้นได้

สูตรที่ 6
พอกหน้าด้วยแตงโม จากประเทศตุรกี
วิธีทำ จัดการฝานแตงโมเป็นชิ้นบางๆ จากส่วนที่แดงที่สุด นำมาแปะให้ทั่วใบหน้า แล้วใช้ผ้าขาวบางคลุมหน้าไว้ ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น

สูตรที่ 7
พอกหน้าด้วยน้ำมะนาวและน้ำผึ้ง จากประเทศฝรั่งเศส
วิธีทำ ด้วยการผสมน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ กับน้ำมะนาว 1 ช้อนชา คนให้เข้ากัน แล้วนำมาทาให้ทั่วทั้งใบหน้าและลำคอ ทิ้งไว้อย่างน้อย 30 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น

ลองเอากลับไปทำกันดูนะคะ มีให้เลือกตั้ง 7 สูตร ทำง่ายๆ แถมวัตถุดิบเป็นของที่ได้มาจากใกล้ๆ ตัว และเป็นสิ่งที่ได้มาจากธรรมชาติโดยเฉพาะ รับรองว่าใบหน้าขาวสวยใสคงอยู่ไม่ไกลเกิน เอื้อมแน่นอน...

วันอังคารที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

วิธีปฏิบัติต่อสิ่งที่ตนสงสัยหรือหลักความเชื่อ 10 ประการ (กาลามสูตร)

1. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการฟังตามๆ กันมา
2. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการถือสืบๆ กันมา
3. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการเล่าลือ
4. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการอ้างตำราหรือคัมภีร์
5. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะตรรก
6. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะการอนุมาน
7. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการคิดตรองตามแนวเหตุผล
8. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะเข้ากันได้กับทฤษฎีที่พินิจไว้แล้ว
9. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะมองเห็นรูปลักษณะน่าจะเป็นไปได้
10. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะนับถือว่า ท่านสมณะนี้ เป็นครูของเรา

จากวอลมาร์ท (Walmart) ถึง โลตัส (Lotus

วอลมาร์ท เป็นชื่อของร้านค้าแนวดิสเคาน์สโตร์สัญชาติอเมริกัน ก่อตั้งสาขาแรกที่มลรัฐอาคันซอ (Arkansas) ในปี พ.ศ. 2505 โดย แซม วอลตัน (SamWalton) เพื่อเป็นร้านขายของราคาถูก ปัจจุบันใช้สโลแกนว่า "Save MoneyLive Better" แทนสโลแกนเดิม คือ "Always Low Prices, Always"ซึ่งใช้มาก่อนหน้านี้ 19 ปี วอลมาร์ทยังเป็น "ต้นแบบ" ของร้านค้าประเภทเดียวกันนี้ เช่น เทสโกโลตัสและคาร์ฟูร์ ในอดีตโลตัสของซีพีที่เปิดตัวในปี พ.ศ. 2537 ก็ได้นำคนจากวอลมาร์ทเข้ามาเป็นที่ปรึกษาและวางระบบให้ ในครั้งนั้นวอลมาร์ทเกือบจะเข้ามาขยายการลงทุนในไทย แต่ก็เลือกไปที่จีนแทน เพราะเห็นโอกาสทางการตลาดที่ใหญ่กว่า ภายหลังกลุ่มเทสโก้เข้ามาเทคโอเวอร์โลตัส และเปลี่ยนชื่อเป็น เทสโก้โลตัสต่อมาเมื่อมีการร่วมทุนจากต่างประเทศกับกลุ่มค้าปลีกไทยมากขึ้น จึงส่งผลให้ร้านค้าปลีกในแบบดิสเคาน์สโตร์หรือไฮเปอร์มาร์เก็ตในประเทศไทยขยายตัวอย่างรวดเร็ว แม้ว่าวอลมาร์ทจะไม่มีสาขาในประเทศไทยแต่ในฐานะที่มียอดขายรวมมากที่สุดในโลกจึงถือเป็น "เบอร์ 1" และถือเป็น "ตำนาน"ของร้านค้าปลีกในแนวดิสเคาน์สโตร์

จากวอลมาร์ท (Walmart) ถึง โลตัส (Lotus

วอลมาร์ท เป็นชื่อของร้านค้าแนวดิสเคาน์สโตร์สัญชาติอเมริกัน ก่อตั้งสาขาแรกที่มลรัฐอาคันซอ (Arkansas) ในปี พ.ศ. 2505 โดย แซม วอลตัน (SamWalton) เพื่อเป็นร้านขายของราคาถูก ปัจจุบันใช้สโลแกนว่า "Save MoneyLive Better" แทนสโลแกนเดิม คือ "Always Low Prices, Always"ซึ่งใช้มาก่อนหน้านี้ 19 ปี วอลมาร์ทยังเป็น "ต้นแบบ" ของร้านค้าประเภทเดียวกันนี้ เช่น เทสโกโลตัสและคาร์ฟูร์ ในอดีตโลตัสของซีพีที่เปิดตัวในปี พ.ศ. 2537 ก็ได้นำคนจากวอลมาร์ทเข้ามาเป็นที่ปรึกษาและวางระบบให้ ในครั้งนั้นวอลมาร์ทเกือบจะเข้ามาขยายการลงทุนในไทย แต่ก็เลือกไปที่จีนแทน เพราะเห็นโอกาสทางการตลาดที่ใหญ่กว่า ภายหลังกลุ่มเทสโก้เข้ามาเทคโอเวอร์โลตัส และเปลี่ยนชื่อเป็น เทสโก้โลตัสต่อมาเมื่อมีการร่วมทุนจากต่างประเทศกับกลุ่มค้าปลีกไทยมากขึ้น จึงส่งผลให้ร้านค้าปลีกในแบบดิสเคาน์สโตร์หรือไฮเปอร์มาร์เก็ตในประเทศไทยขยายตัวอย่างรวดเร็ว แม้ว่าวอลมาร์ทจะไม่มีสาขาในประเทศไทยแต่ในฐานะที่มียอดขายรวมมากที่สุดในโลกจึงถือเป็น "เบอร์ 1" และถือเป็น "ตำนาน"ของร้านค้าปลีกในแนวดิสเคาน์สโตร์